คำตอบของทีม
ไม่ได้ส่งคำตอบ
คะแนน + โบนัสทำเร็ว
0.0
แชร์
ไม่ได้ส่งคำตอบ
พลังงานจากก๊าซไฮโดรเจน ถือเป็นพลังงานที่ไม่สร้างคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ในธรรมชาติได้มีการใช้พลังงานจากไฮโดรเจนด้วยเอนไซม์ไฮโดรจีเนส ซึ่งพบได้ในแบคทีเรียบางชนิดและมีการเสนอกลไกการเกิดปฏิกิริยา ตามแผนภาพด้านล่าง โดย Ni-B, Ni-SIa, Ni-R, Ni-C, และ Ni-L เป็นชื่อของ intermediate ต่างๆ ในขั้นตอนการเกิดปฏิกิริยา

จากแผนภาพ หากสารเชิงซ้อน Ni-B มีประจุรวมเป็น –2 โดยที่ไอออนเหล็กใน Ni-B เลขออกซิเดชัน +2 และเลขออกซิเดชันของเหล็กไม่เปลี่ยนตลอดการเกิดปฏิกิริยา ประจุของ Ni-B, Ni-SIa, Ni-R, Ni-C, Ni-L นั้นไม่ได้ระบุไว้ จงหาเลขออกซิเดชันของ ไอออน Ni ใน Ni-B, Ni-SIa, Ni-R, Ni-C, Ni-L

เฉลย

ตอบ +3,+2,+2,+3,+1 (Ni-B +3, Ni-SIa +2, Ni-R +2, Ni-C +3, Ni-L +1)

แนวคิด  เริ่มจาก Ni-B ที่มีประจุรวม –2 ลิแกนด์ CO เป็นกลาง ลิแกนด์ OH, S-Cys และ CN มีประจุ –1 เมื่อรวมกับ ไอออนเหล็ก ซึ่งมีประจุเป็น +2 จึงได้ว่า ไอออนนิกเกิลใน Ni-B มีค่าเป็น +3
     Ni-SIเกิดจากการรีดิวซ์ Ni-B ด้วย 1 e Ni ใน Ni-SIa จึงเป็น Ni2+ ซึ่งเมื่อเติมโมเลกุล H2 ซึ่งเป็นกลางเข้าไป จะไม่มีการเปลี่ยนเลขออกซิเดชันจึงเป็น Ni2+ ใน Ni-R    Ni ใน Ni-R จะถูกออกซิไดซ์ด้วย 1 e– และกลายเป็น Ni3+ ใน Ni-C   การเปลี่ยน Ni-C ไปเป็น Ni-L จะมีการสูญเสีย H+ ไปที่ลิแกนด์ โดยที่จะทิ้ง
2 e ไว้กับ Ni จึงเป็น Ni+ และเมื่อเกิดออกซิเดชันอีกหนึ่งครั้ง ด้วย 1 e ก็จะเปลี่ยนกลับไปเป็น Ni-SIa หรืออาจจะพิจารณาย้อนกลับจาก Ni-SIa ว่าเป็นผลมาจากการออกซิไดซ์ของ Ni-L นั่นคือ Ni ใน Ni-L จึงควรเป็น Ni+